FIN: ประตู จุดจ่ายกระแสพลัง

ที่มาภาพ : shutterstock

ประตู เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในวิชาฮวงจุ้ย ซึ่งประตูเปรียบเสมือนช่องทางเข้าออกของพลังที่ดีและพลังที่ร้ายสำหรับบ้านและอาคารต่างๆ ซึ่งซินแสหลายคนให้น้ำหนักความสำคัญกับองศาทิศทาง ขนาด ชัยภูมิ ของประตูเป็นหลัก มากกว่าเรื่องอื่นๆ

เนื่องจากหลักการของวิชาฮวงจุ้ย เป็นวิชาการบริหารการไหลของพลังธรรมชาติ โดย “ฮวง หมายถึง ลม” และ “จุ้ย หมายถึง น้ำ” ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นวัตถุของไหลในเชิงวิศวกรรมที่ธรรมชาติสร้างขึ้น เมื่อเกิดการไหล ก็จะเกิดการนำพาพลังงานจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่งได้

เช่น เมื่อลมพัดผ่านเข้ามาทางประตูบ้าน ก็จะนำพาพลังงานจากนอกบ้านเข้ามาภายในตัวบ้านได้ และคนอยู่อาศัยในตัวบ้านก็จะได้รับพลังงานนั้นไปด้วย โดยลักษณะของบ้านที่เหมือนกล่องสี่เหลี่ยม เปรียบเสมือนกล่องบรรจุภัณฑ์ที่กักเก็บสะสมพลังงาน ส่วนประตูก็เหมือนฝากล่องบรรจุภัณฑ์ที่เปิดให้พลังงานไหลเข้าไปเก็บในกล่อง

หากซินแสคำนวณองศาทิศทางของประตูบานไหนแล้วมีพลังงานที่ดี ก็จะต้องเปิดประตูนั้นให้ลมพัดผ่านนำพาพลังที่ดีเข้ามาเก็บสะสมในบ้านหรืออาคารให้มากที่สุด แต่หากคำนวนองศาทิศทางประตูแล้วเป็นพลังร้ายก็จะต้องปิดประตูเพื่อป้องกันลมที่พัดเข้ามาจะนำพาพลังงานร้ายเข้ามาในบ้าน หรืออาคาร

นอกจากนี้ ซินแสจะให้ความสำคัญกับช่องประตูบานใหญ่มากกว่าประตูบานเล็กและช่องหน้าต่าง เนื่องจากประตูบานใหญ่มีพื้นที่สัมผัสระหว่างอากาศภายนอกกับภายในบ้านมากกว่า ทำให้ลมหรือพลังงานเข้าและออกได้มากกว่าประตูบานเล็กหรือช่องหน้าต่าง โดยหลายๆ บ้าน ประตูบานที่ใหญ่สุดก็มักจะเป็นประตูทางเข้าหลักทางหน้าบ้านนั่นเอง

หากเทียบประตูทางเข้าหลักของบ้านกับประตูบานอื่นๆ แล้ว ประตูทางเข้าหลักก็จะมีความสำคัญกว่า เนื่องจากเป็นประตูที่มีคนเดินเข้าออกเยอะจึงมีการเข้าออกของกระแสลมเยอะตามไปด้วย เพราะเวลาคนเคลื่อนไหว เดินเข้าออกประตู ก็สามารถลากกระแสลมอ่อนๆ ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้บางบ้านก็นิยมเปิดประตูหลักของบ้านเกือบตลอดเวลาเพื่อระบายอากาศ จึงยิ่งทำให้ประตูหลักของบ้านเป็นทิศทางที่รับกระแสจากพลังธรรมชาติ เช่น ลม มากที่สุด

ซินแสหลายท่านมักพูดว่า ประตูทางเข้าหลักนั้นเหมือนปากของบ้านหรืออาคารต่างๆ เนื่องจากประตูทางเข้าหลักนั้นเป็นจุดจ่ายกระแสพลังงานเข้าสู่บ้านมากที่สุด หรือเปรียบเสมือนจุดจ่ายอาหารเข้าสู่ร่างกายคน ดังนั้นเราจึงต้องให้ความสำคัญประตูทางเข้าหลักโดยพิจารณาจาก

  1. ชัยภูมิภายนอกอาคารของประตูทางเข้าหลัก (ด้านนอกประตู)
    ชัยภูมิภายนอกนั้นจะต้องโล่ง เพื่อไม่ให้มีสิ่งกีดขวางกระแสลมที่จะพัดเข้ามาสู่ภายในบ้านหรืออาคารนั้นๆ ถ้ามีสิ่งกีดขวาง เช่น ต้นไม้ใหญ่ เสาอาคาร กันสาด เสาไฟฟ้า รั้วที่มีสภาพทึบ เหล่านี้จะบังกระแสลมที่เข้าสู่บ้าน

    ส่วนพื้นที่ด้านหน้าประตู ควรมีลานโล่งและชานพัก ซึ่งในทางฮวงจุ้ยเรียกว่า “เหม่งตึ๊ง” ที่เป็นลานสะสมพลัง โดยลักษณะของลานโล่งและชานพักหน้าประตูนั้นไม่ควรลาดเอียงเทออก เพราะจะทำให้กระแสพลังธรรมชาติไหลออกจากทางเข้าประตูหน้าบ้าน ซึ่งลม เป็นของไหลในทางวิศวกรรม จึงสามารถไหลออกตามชานพักที่ลาดเอียงได้ ทำให้ชานพักหน้าประตูนั้นไม่สามารถสะสมพลังไว้ให้เข้าสู่ประตูทางเข้าได้

    นอกจากนี้ ระดับประตูทางเข้าไม่ควรยกสูงจากพื้นดินมากเกินไป เนื่องจากยิ่งสูงก็ยิ่งลดโอกาสการนำพาพลังเข้าสู่ประตูให้น้อยลง เพราะพลังงานถูกนำพาโดยลมที่มีลักษณะเป็นของไหล และวิถีการไหล จะต้องไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเสมอทั้งนี้ จุดสำคัญอีกอย่างที่สามารถสังเกตเองได้คือ เมื่อยืนบริเวณประตูทางเข้า จะต้องสามารถรู้สึกถึงพลังธรรมชาติได้ชัดเจน ยิ่งมากยิ่งดี เช่น รู้สึกถึงกระแสลมที่พัดเข้ามาสู่บ้านอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกระแสลมที่เกิดจากธรรมชาติ หรือกระแสลมที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของวัตถุต่างๆ เช่น รถที่วิ่งผ่านหน้าบ้าน หรือกระแสลมที่เกิดจากวัตถุที่คนสร้าง เช่น น้ำพุที่มีการกระจายน้ำไปบนอากาศ ซึ่งน้ำพุพุ่งแหวกอากาศขึ้นไป ก่อให้เกิดกระแสลมได้ตลอดเวลา

    ภาพบ้านที่มีประตูทางเข้าหลักที่ดี โดยหน้าประตูมีชานพัก ชายคาเพดานเหนือประตูไม่กดต่ำ หน้าประตูมีสภาพโล่งมาก
    ทำให้มีโอกาสที่กระแสลมจะพัดเข้าบ้านทางประตูหน้าได้มาก
    ที่มาภาพ : shutterstock

    ภาพชานพักหน้าประตูบ้านที่ดีมีลักษณะเรียบไม่ลาดเอียงเทออกและมีความโล่งเป็นลานสะสมพลังได้ดี
    ที่มาภาพ : shutterstock

     

  2. ชัยภูมิภายในอาคารของประตูทางเข้าหลัก (ด้านในประตู)
    จะต้องมีลานโล่งพอสมควรเพื่อให้กระแสอากาศจากจุดทางเข้าประตูหลักกระจายไปทั่วบริเวณภายในได้ง่าย จึงไม่ควรมีอะไรมาบัง เช่น ผนังทึบใกล้บริเวณประตูเกินไป หรือมีสิ่งของกีดขว้าง ซึ่งถ้าให้ดี หากเป็นบ้านก็มักออกแบบจะเป็นบริเวณห้องนั่งเล่นที่มีสภาพโล่งๆ หรือเป็นโถงรับแขกในบ้าน หากเป็นสำนักงานก็ควรเป็นพื้นจุดรับแขกที่มีสภาพโปร่งโล่ง

    ภาพพื้นที่โล่งหลังประตูทางเข้าที่ดี
    ที่มาภาพ : shutterstock

  3. ประตูทางเข้าหลักควรเป็นประตูที่ขนาดใหญ่ ไม่เล็กเกินไป
    เนื่องจากประตูบานใหญ่ที่มีช่องเปิด มีพื้นที่สัมผัสอากาศภายนอกมาก ก็จะทำให้มีโอกาสที่กระแสลมพัดนำพาพลังเข้ามาสู่บ้านหรืออาคารได้มาก และยังช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้ดีด้วย
  4. ประตูทางเข้าหลักของบ้าน ควรเปิดให้อากาศเข้าถ่ายเทได้อยู่ประจำ
    ซึ่งหากชัยภูมิด้านในและนอกประตูดี มีกระแสพลังเข้าได้มาก การเปิดประตูบานนี้เป็นประจำจะทำให้มีโอกาสได้รับพลังจากธรรมชาติมากเช่นกัน
  5. ประตูทางเข้าหลักควรเป็นประตูที่ใช้เข้าออกบ้านจริงๆ
    หากคำนวณองศาทิศทางและชัยภูมิภายนอกกับภายในประตูมีพลังที่ดี เช่น มีชานพักโล่งที่เป็นแหล่งสะสมพลังที่ดี ฯลฯ ทุกครั้งที่เดินผ่านประตูก็มีโอกาสที่จะได้รับพลังที่ดี ส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองอยู่ตลอด

อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการคำนวณองศาทิศทางที่ดีก่อนจากวิชาฮวงจุ้ยที่เกี่ยวข้องกับองศาทิศทาง เช่น วิชาดาวเหิน หรือที่เรียกว่า “เสวียนคงปวยแช” ที่ใช้หลักการโคจรของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล โดยเฉพาะดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ที่มีมวลใหญ่กว่าโลกและมีพลังงานสนามแม่เหล็กแรงดึงดูดมากกว่าโลก

ดังนั้น การคำนวณทิศทางองศาที่ดีควรปรึกษาซินแสผู้ชำนาญวิชาด้านนี้ ทั้งนี้ ทิศประตูทางเข้าหลักนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเป็นทิศที่มีพลังดีเพื่อเป็นจุดจ่ายกระแสไปทั่วอาคารและบ้านนั้นๆ

หากว่าทิศทางของประตูทางเข้าบ้านเป็นทิศทางที่มีพลังไม่ดีแล้ว การใช้ประตูนั้นเป็นหลัก หรือเปิดประตูบ้านให้ลมพัดเข้ามาสู่บ้านเป็นประจำก็จะทำให้พลังร้ายเข้าสู่อาคารและบ้านอยู่เสมอ และจะนำความเสื่อมมาสู่คนที่อยู่ภายในเป็นประจำ

เหตุการณ์นี้สามารถแก้ไขได้ โดยบิดประตูให้เฉียงหรือเอียงไปรับพลังจากองศาทิศทางอื่น หรือไม่ก็เปลี่ยนไปใช้ประตูบานที่เป็นทิศทางที่มีพลังดีและชัยภูมิที่ดีเป็นทางเข้าหลักแทนก็ได้ นอกจากนี้ยังมีวิธีแก้ไขอื่นอีก ซึ่งต้องอยู่กับดุลพินิจของซินแสที่เห็นสถานที่จริง

ส่วนประตูอื่นรอบบ้าน หากเป็นทิศประตูที่มีสภาพชัดเจนว่ากระแสลมพัดจากภายในบ้านออกสู่ภายนอกบ้าน แน่นอนถ้าเป็นประตูที่คำนวณองศาทิศทางว่าเป็นพลังร้ายแล้ว ลมที่พัดออกก็จะช่วยให้นำพลังร้ายออกจากบ้านและอาคารด้วย

แต่ถ้าเป็นพลังที่ดี ก็จะทำให้พลังที่ดีนั้นถูกถ่ายเทออกและไม่ได้สะสมตัวในบ้านและอาคาร ดังนั้นจึงต้องพิจารณาประตูแต่ละบานให้ดี สำหรับประตูหลักเข้าสู่ห้องต่างๆ ควรเป็นทิศทางองศาที่มีพลังดีเช่นเดียวกับประตูหลักเข้าบ้าน

เพื่อจะได้นำพาพลังดีเข้าสู่ห้องนั้นๆ โดยเฉพาะห้องที่เราใช้งานประจำ เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ฯลฯ ซึ่งพื้นที่บริเวณประตูห้องนั้นทั้งภายในและภายนอกห้องควรมีสภาพโล่งพอสมควร ไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้กระแสพลังที่ดีนั้นเข้ามาได้ง่าย โดยมีหลักการเช่นเดียวกับประตูทางเข้าหลัก

จากข้อมูลข้างต้นจึงเป็นสาเหตุที่การจัดฮวงจุ้ยนั้นจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับชัยภูมิและองศาทิศทางที่ดีของประตูอย่างมาก เนื่องจากประตูคือจุดจ่ายกระแสพลังเข้าสู่บ้านและอาคาร หากเป็นประตูเข้าห้องแต่ละห้องก็เป็นจุดจ่ายกระแสพลังเข้าสู่แต่ละห้องนั่นเอง

ซึ่งถ้าหากเราสามารถจัดการใช้ประตูนั้นเป็นจุดเหนี่ยวนำและกระจายพลังดีได้ ก็จะทำให้ชีวิตคนที่อยู่อาศัยในบ้าน อาคาร หรือห้องนั้นๆ เจริญรุ่งเรืองได้อย่างแน่นอน

Related Posts

ตามช่วงเวลา