ที่มาภาพ : shutterstock
ถนนพระราม 4 เป็นถนนเส้นหลักของกรุงเทพฯ ที่เชื่อมต่อกับถนนสำคัญอีกหลายสาย โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่ใกล้ถนนเยาวราช แหล่งค้าปลีกที่มีความเจริญรุ่งเรืองมายาวนาน ซึ่งจุดเริ่มนี้จะอยู่ตรงทางแยกหมอมีซึ่งเป็นห้าแยกเชื่อมต่อถนนเจริญกรุง ถนนมิตรภาพ ถนนพระราม 4 และสุดท้ายคือถนนทรงสวัสดีที่เชื่อมต่อกับถนนเยาวราช
และจากจุดเริ่มตรงนี้ของถนนพระราม 4 ก็จะลากผ่านข้ามคลองผดุงกรุงเกษมที่สะพานเจริญสวัสดิ์ ผ่านสถานีหัวลำโพงและผ่านสี่แยกสำคัญหลายจุด
- ผ่านสี่แยกมหานครจุดเชื่อมถนนจารุเมือง ถนนมหานคร และทางลงทางด่วนพิเศษศรีรัช
- ผ่านสี่แยกสามย่านจุดเชื่อมของถนนสี่พระยาและพญาไท
ที่มาภาพ : shutterstock - ผ่านสี่แยกอังรีดูนังต์จุดเชื่อมของถนนอังรีดูนังต์เชื่อมถนนสุรวงค์
- ผ่านสี่แยกศาลาแดง จุดเชื่อมของถนนราชดำริกับถนนสีลม
- ผ่านสี่แยกวิทยุ จุดเชื่อมของถนนวิทยุกับถนนสาทร
- ผ่านแยกใต้ทางด่วน พระราม 4 ที่เชื่อมต่อถนนดวงพิทักษ์ ถนนเชื้อเพลง และทางด่วนทางพิเศษเฉลิมมหานคร
- ผ่านสี่แยกพระราม 4 ที่เชื่อมถนนรัชดาภิเษกกับถนนพระราม 3
- ผ่านสามแยกเกษมราษฎร์ ที่เป็นจุดเชื่อมของถนนพระราม 4 กับถนนเกษมราษฎร์ที่เชื่อมต่อไปบริเวณท่าเรือ
- ผ่านแยกกล้วยน้ำไท ที่เป็นชุดเชื่อมของถนนสุขุมวิทซอย 42 บริเวณเอกมัยกับถนนกล้วยน้ำไท
- สิ้นสุดที่ถนนสุขุมวิทบริเวณสามแยกพระโขนง
ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA
เมื่อดูจากเส้นทางของถนนพระราม 4 จะเห็นได้ว่าถนนนี้ผ่านสี่แยกที่เป็นจุดเชื่อมถนนสำคัญหลายจุด จึงเรียกได้ว่าถนนพระราม 4 เป็นถนนที่มีฮวงจุ้ยดีอย่างมากแห่งหนึ่ง เพราะฮวงจุ้ยนั้นคำนึงการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างซึ่งเป็นตัวนำพากระแสพลังงาน เช่น รถยนต์วิ่ง คนที่เดินไปมา เป็นต้น
โดยสี่แยกบนถนนพระราม 4 ล้วนแล้วแต่เป็นสี่แยกที่มีความหนาแน่นของการใช้รถและคนเดินอย่างมาก โดยเฉพาะถนนพระราม 4 ช่วงจุดเริ่มต้นไปจนถึงสี่แยกที่ถนนพระราม 4 นั้นตัดกับถนนรัชดาภิเษกและถนนพระราม 3 ซึ่งบริเวณจะเป็นช่วงพระราม 4 ตอนต้นถึงช่วงกลาง
จุดเริ่มต้นของถนนพระราม 4 นั้นก็เชื่อมต่อกับถนนเยาวราชที่มีลักษณะโค้งไปมาทำให้กระแสพลังงานกระจายตัวทั่วถึงทุกจุดของถนน และถือว่าถนนเยาวราชนั้นเป็นถนนที่มีฮวงจุ้ยดีมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งกระแสพลังงานนี้ก็เชื่อมเข้าสู่ต้นถนนพระราม 4 และบริเวณสถานีหัวลำโพงก็เป็นจุดต้นของถนนพระราม 4 เช่นกัน
ส่วนสี่แยกบนถนนพระราม 4 นั้นล้วนแต่มีแต่สี่แยกที่เป็นจุดตัดของถนนสำคัญทั้งนั้น
เริ่มจากสี่แยกมหานครเป็นจุดทางลงทางด่วนพิเศษศรีรัช ทำให้กระแสพลังงานของรถที่วิ่งบนทางด่วนไหลลงสู่ช่วงต้นของถนนเพระราม 4
ส่วนสี่แยกถัดมาคือสี่แยกสามย่าน จุดนี้เรียกว่าเป็นสี่แยกที่พลังงานมากเนื่องจากเป็นสี่แยกที่มีพื้นที่ถนนกว้างใหญ่กว่าหลายสี่แยกทั่วไป ทำให้เกิดการหมุนเวียนของพลังงานที่มาก และสี่แยกนี้ยังมีสถานที่สำคัญ เช่น วัดหัวลำโพง จามจุรีสแควร์ ที่เป็นศูนย์การค้า อาคารสำนักงานและอาคารพักอาศัย ซึ่งพื้นที่รวม 274,459 ตารางเมตร
นอกจากนี้ยังมีอาคารใหม่อย่างสามย่านมิตรทาวน์ โครงการ mixed-use ที่ประกอบด้วยโซนรีเทล โซนสำนักงาน และโซนที่อยู่อาศัย โดยมีพื้นที่ใช้สอยรวม 222,000 ตารางเมตร โดยอาคารสถานที่สำคัญเหล่านี้เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้เกิดการเดินทางมาสู่ทำเลนี้ ซึ่งก่อให้เกิดกระแสพลังงานมากขึ้นบริเวณสี่แยกนี้ และสี่แยกนี้ก็มีรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่านที่ช่วยให้คนเข้ามาถึงพื้นที่บริเวณแยกแห่งนี้ได้มากขึ้นอีกด้วย
ส่วนสี่แยกศาลาแดง ก็เรียกได้ว่าเป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นจุดตัดของถนนสีลม แหล่งรวมพื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน โรงแรม และเป็นจุดตัดของถนนราชดำริที่มีโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้เป็นจุดที่มีคนเดินทางเข้าออกต่อวันเป็นจำนวนมาก เกิดกระแสพลังงานจากรถยนต์และคนที่เคลื่อนไหวอย่างมากในทำเลนี้
และสี่แยกนี้เป็นจุดตัดของ MRT กับ BTS อีกด้วย ทำคนสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ง่าย ทำให้กระแสพลังงานนั้นยิ่งมากขึ้นไปอีกด้วย
ส่วนการพัฒนาในทำเลสี่แยกนี้คือการรวมทุนของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และ กลุ่มเซ็นทรัล โดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ในการสร้างโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล ปาร์ค บริเวณหัวมุม ถนนพระราม 4 ตัดถนนสีลม ตรงข้ามกับสวนลุมพินี ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของโรงแรมดุสิตธานี โดยโครงการนี้จะมีพื้นที่อาคารรวมถึง 403,000 ตารางเมตร ซึ่งการพัฒนานี้ก็จะทำให้ทำเลของสี่แยกนี้มีคนเข้ามาเป็นจำนวนมากในอนาคต และยิ่งก่อให้เกิดกระแสพลังงานมากขึ้นนั้นเอง
ส่วนสี่แยกวิทยุ จุดเชื่อมของถนนวิทยุกับถนนสาทรก็เป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยดีมากเช่นกัน เพราะบริเวณนี้ก็มีกลุ่มอาคารสำนักงานมากมายบนถนนสาทรและวิทยุอยู่ ซึ่งทำให้คนเดินทางเข้าออกผ่านสี่แยกแห่งนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน และมี MRT สถานีลุมพินี เพิ่มการเดินเข้าทำเลนี้ให้สะดวกอีกด้วย
และยังมีการพัฒนาโครงการในบริเวณสี่แยกนี้คือโครงการ One Bangkok ที่เป็นโครงการมิกซ์ยูส ผสมผสานด้วยอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม พื้นที่ค้าปลีก และอีกหลากหลายสถานที่บนทำเลเดียว และจะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศบนพื้นที่ 104 ไร่ บนหัวมุมถนนพระรามที่ 4 และถนนวิทยุ ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเตรียมทหาร และสวนลุมไนท์บาร์ซาร์ เรียกได้ว่าเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่กำลังก่อสร้างที่ขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบันนี้ พื้นที่รวมประมาณ 1,830,000 ตารางเมตร ซึ่งถ้าหากโครงการนี้สร้างเสร็จคงทำให้ทำเลนี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางที่มีคนเดินทางเข้าเป็นจำนวนมากนั้นเอง
พื้นที่สี่แยกถัดจากสี่แยกวิทยุคือสี่แยกใต้ทางด่วนพระราม 4 ที่เป็นสี่แยกที่ 2 บนถนนพระราม 4 ที่เป็นจุดขึ้นลงทางด่วนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ซึ่งจุดสี่แยกนี้เป็นบริเวณที่ทำให้กระแสพลังงานจากรถยนต์ที่วิ่งบนทางด่วนนั้นสามารถไหลเข้ามาสู่ถนนพระราม 4 ได้ง่ายเช่นเดียวกันสี่แยกมหานครที่ได้กล่าวไปนั้นเอง
ส่วนสี่แยกสุดท้ายที่เริ่มจากตอนต้นถึงตอนช่วงกลางของถนนพระราม 4 ที่มีความสำคัญมากนั้นก็คือสี่แยกพระราม 4 ที่เชื่อมถนนรัชดาภิเษกกับถนนพระราม 3 บริเวณนี้เดิมที่เป็นมีอาคารศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และอาคารตลาดหลักทรัพย์ เป็นจุดที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาบริเวณสี่แยกนี้ไปมาก โดยจะเริ่มเห็นจากการมีอาคารสำนักงาน FYI มีพื้นที่ร้านค้า สำนักงานและโรงแรมรวมประมาณ 100,000 ตารางเมตร และยังมีโครงการ The PARQ (เดอะปาร์ค) ซึ่งประกอบอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่สำหรับค้าปลีก โรงแรม และเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ระดับพรีเมียมรวมอยู่ด้วย มีพื้นที่ 320,000 ตารางเมตร
ส่วนศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็มีการปรับปรุงใหม่โดยรื้อและขยายให้พื้นที่จัดงานให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจากประมาณ 20,000 ตารางเมตรเป็น 70,000 ตารางเมตร
สิ่งที่สำคัญที่ทำให้ถนนพระราม 4 ช่วงตอนต้นถึงช่วงกลางถนนนั้นแตกแต่งจากถนนอื่นๆ คือการมีพื้นที่ใกล้สวนขนาดใหญ่ 3 สวน คือ สวนลุมพินี มีพื้นที่ 360 ไร่ สวนเบญจกิติ มีพื้นที่ 130 ไร่ และสวนป่าเบญจกิติ มีพื้นที่ 320 ไร่ เรียกได้ว่าจะไม่มีถนนเส้นไหนใกล้สวนขนาดใหญ่เท่าถนนพระราม 4 อย่างแน่นอน
โดยพื้นที่สวนขนาดใหญ่ที่โอบล้อมด้วยอาคารสูงนั้นเป็นฮวงจุ้ยที่ดีมาก หากสังเกตในหลายประเทศบริเวณที่มีอาคารสูงรอบสวนขนาดใหญ่นั้นก็มักจะเป็นแหล่งที่มีความเจริญสูง เนื่องจากฮวงจุ้ย แปลว่า ”ลม” กับ ”น้ำ” ซึ่งสองอย่างนี้เป็นของไหลในเชิงธรรมชาติจึงไหลลงสู่ที่ต่ำกว่าเสมอ และสวนขนาดใหญ่ในเมืองเป็นพื้นที่ราบต่ำเมื่อเทียบกับตึกสูงรอบๆ จึงทำให้กระแสพลังงานนั้นไหลมารวมตัวสะสมบริเวณสวน ทำให้อาคารที่อยุ่ใกล้พื้นที่สวนนี้ได้รับกระแสพลังงานเหล่านี้ไปด้วย หรือเรียกได้ว่าพื้นที่บริเวณรอบสวนเหล่านี้จะเกิดความเจริญมากนั้นเอง
ความเป็นจริงแล้วถนนพระราม 4 น่าจะมีความเจริญกว่าปัจจุบันนี้นานมากแล้ว เพียงแต่พื้นที่บริเวณถนนพระราม 4 นั้นไม่สามารถซื้อขายกันได้ เนื่องจากเป็นที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และที่ดินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหลายแปลง
จึงทำให้หลายปีที่ผ่านมายังไม่มีเอกชนเข้ามากล้าลงทุนพัฒนาที่ดินเหล่านี้ จนปัจจุบันนี้ราคาที่ดินนั้นปรับตัวขึ้นสูงมากทำให้เอกชนหาซื้อที่ดินในเมืองมาพัฒนาเป็นโครงการต่างๆ ได้ยาก จึงทำให้บริษัทเอกชนหันมาเช่าที่ดินระยะของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และที่ดินของมหาลัยจุฬาฯ บนถนนพระราม 4 นี้เพื่อพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ นั่นเอง
ซึ่งหลังจากการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่เหล่านี้เสร็จ ถนนพระราม 4 ตอนต้นจะกลายถนนที่มีฮวงจุ้ยที่สมบูรณ์มากขึ้นเป็นลักษณะฮวงจุ้ยของกลุ่มอาคารโอบล้อมสวนขนาดใหญ่ตามหลักได้ที่กล่าวไปเบื้องต้น ก็จะทำให้ถนนพระราม 4 ตอนต้นนี้กลายเป็นถนนที่มีความฮวงจุ้ยที่ดีสุดและมีความเจริญที่สุดที่หนึ่งของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้
ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA
ภาพแสดงถนนพระราม 4 ที่ใกล้พื้นที่สวนขนาดใหญ่คือสวนลุมพินี สวนเบญจกิติและสวนป่าเบญจิกิติ รวมพื้นที่ประมาณ 810 ไร่ และมีการพัฒนาโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ 4 จุด คือ
- โครงการสามย่านมิตรทาวน์ พื้นที่ประมาณ 222,000 ตารางเมตร
- โครงการ ดุสิต เซ็นทรัล ปาร์ค พื้นที่ประมาณ 403,000 ตารางเมตร
- One Bangkok พื้นที่ประมาณ 1,830,000 ตารางเมตร
- The PARQ พื้นที่ประมาณ 320,000 ตารางเมตร