Month

June 2016

FIN: ฮวงจุ้ยเจริญกรุง

ที่มาภาพ : shutterstock ถนนเจริญกรุงถือว่าเป็นถนนที่มีความเจริญมายาวนานมาก โดยถนนแห่งนี้สร้างเมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2404 จนสร้างเสร็จ พ.ศ. 2407 เรียกได้ว่ามีอายุยาวนานถึง 100 กว่าปีเลยทีเดียว เมื่อสร้างถนนนี้เสร็จใหม่ชาวยุโรปเรียกถนนนี้ว่า นิวโรด (New Road) และชาวจีนเรียก ซินพะโล้ว แปลว่า ถนนตัดใหม่ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามถนนว่า “ถนนเจริญกรุง” นั้นเอง และว่าแม้เวลาผ่านมายาวนานมากแต่ถนนแห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นถนนที่มีความเจริญตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงสมัยปัจจุบัน โดยหากพิจารณาทางด้านฮวงจุ้ยที่ส่งเสริมให้ถนนแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองยาวนานมีได้ดังนี้ ถนนเจริญกรุงเป็นถนนที่ขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดเส้นถนน เริ่มตั้งแต่ถนนมหาไชย บริเวณพระบรมมหาราชวังและวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และไปสิ้นสุดถนนที่บริเวณถนนตก แถวโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ทั้งนี้การที่ถนนทั้งสายกับแม่น้ำขนานกันนั้นทำให้ถนนได้รับกระแสพลังงานที่ดีที่มาจากแม่น้ำ เนื่องจากในหลักการของฮวงจุ้ยนั้นแม่น้ำถือว่าเป็นสิ่งที่ลากพากระแสพลังงานจากต้นน้ำไปสู่ทำเลต่างๆ  ได้นั่นเอง และขณะที่น้ำในแม่น้ำเคลื่อนที่นั้น อากาศที่อยู่บริเวณเหนือน้ำก็การเคลื่อนที่ตามแนวกระแสน้ำไปด้วย ซึ่งการเคลื่อนไหวของอากาศเหนือแม่น้ำนี่แหละคือพลังงานที่ส่งมาถึงพื้นดินที่เป็นทำเลใกล้น้ำได้ ซึ่งถนนเจริญกรุงและถนนใกล้ๆ แม่น้ำบริเวณนี้ เช่น ถนนเยาวราชก็ได้รับอิทธิพลส่วนนี้ไปร่วมกันหมด โดยแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีลักษณะโค้งไปมาในช่วงที่ขนานกับถนนเจริญกรุง จึงทำให้พลังงานนั้นเคลื่อนที่ไหลเข้าสู่พื้นดินข้างน้ำได้ดีเป็นพิเศษกว่าการที่ลักษณะแม่น้ำที่ไหลเป็นเส้นทางตรง นอกจากนี้จุดต้นถนนเจริญกรุงบริเวณถนนมหาไชยและปลายถนนเจริญกรุงที่เรียกว่าถนนตกจะเป็นพื้นที่อยู่ในจุดโค้งน้ำด้านในของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทำเลด้านในโค้งน้ำนั้นถือว่าเป็นทำเลที่มีพลังงานสะสมตัวได้ดี โดยสามารถสังเกตได้จากการสะสมตัวของตะกอนทำให้ดินงอกด้านในโค้งแม่น้ำ ที่มาภาพ : shutterstock ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map)...
Read More

FIN: อาคารที่โดดเด่นในย่านสีลม

ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาคารที่หันหน้าไปทางถนนสีลมแล้วเป็นทิศเหนือ เนื่องจากองศาทิศทางด้านนี้คำนวณทางฮวงจุ้ยแล้วเป็นทิศที่ดีมากทิศหนึ่งไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ตาม เช่น ตึกเซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ อาคารสำนักงาน CP อาคารธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เป็นต้น ส่วนอาคารอีกฝั่งที่หันหน้าด้านทิศใต้เข้าสู่ถนนสีลมนั้น คำนวณแล้วองศาทิศทางจะดีบ้างบางช่วงยุคสมัยเท่านั้น ซึ่งช่วงยุค พ.ศ. 2547-2566 นั้นยังไม่ถือว่าดีเท่าไร อาคารที่น่าสนใจด้านนี้ก็คือ อาคารธนิยะ เป็นต้น อาคารเซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ มีจุดน่าสนใจ ดังนี้ อาคารตั้งอยู่ช่วงต้นสายถนนสีลม ทำให้รับพลังงานได้ดีกว่าอาคารในช่วงปลายถนนสีลม มีสกายวอล์กเชื่อมกับอาคารทำให้กระแสพลังงานจากคนเดินบนสกายวอล์กเข้าถึงอาคารได้ง่าย ภาพสกายวอล์กเชื่อมเข้าสู่อาคารเซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ ที่มาภาพ : shutterstock อาคารใกล้สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าเองก็เป็นจุดจ่ายพลังงานเพราะมีคนเดินจำนวนมากเข้าออกจากรถไฟฟ้า ตึกมีชั้นใต้ดินที่มีช่องโล่งให้มองเห็นจากชั้นระดับถนนได้ และมีทางเดินลงชั้นใต้ดินจากด้านหน้าอาคาร จึงทำให้พลังงานจากคนเดินและรถวิ่งผ่านไหลลงไปเก็บกักที่บริเวณชั้นใต้ดินอาคารได้มาก ภาพด้านหน้าอาคารเซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ ที่เป็นช่องโล่งให้พลังงานไหลลองไปสู่ชั้นใต้ดิน ทำให้พลังงานสะสมที่ห้างนี้ได้ดี ที่มาภาพ : shutterstock อาคารสำนักงาน CP มีจุดน่าสนใจ ดังนี้ หน้าอาคารตรงข้ามกับซอยพัฒน์พงศ์ ซึ่งเท่ากับว่าทำเลของตึกสำนักงานนี้ตรงกับทางสามแพร่งพอดี ทำให้สามารถรับพลังงานได้มาก เนื่องจากกระแสลมที่พัดมาจะถูกบีบอัดมาระหว่างช่องตึกของซอยพัฒน์พงศ์เข้ามาปะทะอาคารสำนักงานนี้เพียงแต่องศาทิศทางของอาคารนั้นอยู่ในองศาทิศทางที่ดี หรือทิศหน้าอาคารเป็นทิศโชคลาภ จึงทำให้พลังงานที่เข้ามายิ่งกระตุ้นให้เกิดโชคลาภที่ดีนั่นเอง  จริงๆ แล้วทางสามแพร่งไม่ได้ร้ายเสมอไป...
Read More

ตามช่วงเวลา