ที่มาภาพ : shutterstock

ทำเลเพลินจิตถือว่าเป็นย่านที่มีความเจริญสูง โดยย่านนี้มีอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และคอนโดมิเนียมมากมาย ถนนเพลินจิตอยู่ในแขวงลุมพินี เขตปทุมวัน โดยต้นถนนจะอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์ ตัดกับถนนชิดลม
(สี่แยกชิดลม) และถนนวิทยุ (สี่แยกเพลินจิต) และยาวไปจนถึงทางรถไฟเก่าสายช่องนนทรี ซึ่งถนนต่อจากทางรถไฟสายนี้ไปจะเป็นถนนสุขุมวิทตอนต้น ซึ่งเหตุผลที่ทำเลย่านเพลินจิตมีความเจริญรุ่งเรืองสูงก็เพราะกระแสพลังงานจากสิ่งเคลื่อนไหวต่างๆ ผลักเข้ามาสู่ย่านนี้ เช่น พลังงานจากรถยนต์ที่วิ่งลากลมหรืออากาศมาได้ พลังงานจากรถไฟฟ้าบีทีเอส และการเคลื่อนไหวของคน ฯลฯ โดยมีกระแสพลังงานหลักให้พิจารณาดังนี้

  1. กระแสพลังงานจากถนนวิทยุ ถนนวิทยุมีความกว้างขนาด 6 เลน และมีเกาะกลางถนนที่ปลูกต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความกว้างของถนนเป็นพิเศษซึ่งช่วยให้กระแสพลังงานไหลเวียนได้ดี โดยกระแสพลังงานจากถนนวิทยุถือว่ามีพลังงานมากเป็นพิเศษเนื่องจากรถที่วิ่งเข้าถนนวิทยุนั้นจะต้องวิ่งผ่านสวนลุมพินีและพื้นที่สวนของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นจุดพื้นที่แนวราบต่ำกว่าตึกอาคารสูงต่างๆ และหลักการฮวงจุ้ยนั้นอาศัยการนำพลังงานจากลม หรือน้ำ (ซึ่งคำว่า ฮวง แปลว่า ลม ส่วนคำว่า จุ้ย แปลว่า น้ำ) โดยลมและน้ำคือของไหลที่ธรรมชาติสร้างขึ้น เมื่อเกิดการไหลจากจุดหนึ่งก็จะพาพลังงานไปสู่อีกจุดหนึ่งนั่นเอง และของไหลก็จะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ จึงทำให้พลังงานไปสะสมอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ ซึ่งก็คือตำแหน่งบริเวณพื้นที่สวนในเมืองที่ต่ำกว่าตึกสูงรอบๆและการที่รถยนต์วิ่งผ่านสวนเหล่านี้ก็จะลากพลังงานที่สะสมในสวนไปยังทำเลอื่นๆ ได้ เช่น ทำเลเพลินจิตก็ได้รับอิทธิพลของพลังงานนี้ หากสังเกตเพิ่มเติมก็จะเห็นว่า สวนลุมพินีและสวนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกานั้นจะทำกำแพงเป็นรั้วโปร่ง จึงมีส่วนช่วยให้รถลากกระแสพลังงานจากสวนเข้าสู่ถนนเพลินจิตได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

    ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA

  2. กระแสพลังงานจากถนนราชดำริ โดยถนนที่วิ่งจากถนนราชดำริมาถึงสี่แยกราชประสงค์ซึ่งเป็นบริเวณต้นถนนของถนนเพลินจิตนั้น รถจะต้องวิ่งผ่าน สมาคมราชกรีฑาสโมสรโปโลคลับ (RBSC Polo Club) ซึ่งมีลักษณะเป็นลานโล่งหรือสวนขนาดใหญ่ที่สะสมพลังงานมากเช่นกัน ซึ่งรถก็จะดึงกระแสพลังงานจากสวนบริเวณโปโลคลับเข้าสู่แยกต้นถนนเพลินจิต
    ที่มาภาพ : shutterstock
  3. กระแสจากบริเวณจุดขึ้นลงทางด่วนของถนนเพลินจิต เป็นพลังงานจากรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วแต่ต้องหยุดหรือชะลอความเร็วตรงทางลงทางด่วน ทำให้พลังงานนั้นหยุดหรือไหลลงมาสู่ถนนย่านเพลินจิต
  4. กระแสพลังงานจากสถานีรถไฟฟ้าสถานีชิดลมและสถานีเพลินจิต เนื่องจากรถไฟฟ้านั้นเคลื่อนไหว วิ่งลากกระแสพลังงานมาแล้วหยุดบริเวณสถานีชิดลมและสถานีเพลินจิตทำให้พลังงานที่ถูกลากมาจากที่อื่นต้องหยุดและสะสมตัวในย่านนี้ นอกจากนี้ยังมีคนที่เคลื่อนไหวมากมายบริเวณสถานีทั้งสองอีกด้วย เนื่องจากสถานีใกล้ห้างและอาคารที่คนต้องเดินเข้าออกมากมาย เช่น เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เซ็นทรัล ชิดลม, อัมรินทร์พลาซ่า, ออล ซีซั่นส์ เพลส, อาคารปาร์ค เวนเชอร์, อาคารเพลินจิต ทาวเวอร์, อาคารต้นสน ทาวเวอร์ ฯลฯ ซึ่งการเคลื่อนไหวของผู้คนจำนวนมากก็ทำให้เกิดกระแสพลังงานได้ดีเช่นกัน

    ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA

สรุปแล้วถนนเพลินจิตนั้นได้รับกระแสพลังงานดีมากทั้งต้นถนนและปลายถนน เพราะต้นถนนเพลินจิตได้รับกระแสพลังงานจากรถที่วิ่งผ่านลานโล่งของโปโลคลับ และปลายถนนเพลินจิตได้รับกระแสพลังงานที่รถที่วิ่งผ่านสวนลุมพินีและสวนของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา จึงเรียกว่าดีตั้งต้นและปลายถนน นอกจากนี้ยังได้รับพลังงานจากรถที่วิ่งลงจากทางด่วน รวมถึงผู้คนจำนวนมากที่เคลื่อนไหวบริเวณสถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี

ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA

ตามช่วงเวลา