ที่มาภาพ : shutterstock

เมกาบางนา เป็นแหล่งค้าปลีกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนทำเลถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 8 โดยมีพื้นที่โครงการประมาณ 400,000 ตารางเมตร เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ติดอันดับ Top 5 ของประเทศไทยในปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้

เป็นรองจาก ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต สยามพารากอน เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต และ เซ็นทรัลเวิลด์ ที่มีพื้นที่ประมาณ 500,000 ตารางเมตร

ซึ่งเมกาบางนายังมีแผนจะสร้างมิกซ์ยูสภายใต้ชื่อ “เมกะซิตี้” โดยเพิ่มอาคารที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม และพื้นที่สีเขียวหรือสวนสาธารณะบนพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ เรียกได้ว่าจะเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ในย่านถนนบางนา-ตราดเลยก็ว่าได้

เมกาบางนามีการเติบโตจากการเพิ่มของจำนวนคนที่เข้ามาในห้างนี้ และการเพิ่มของราคาพื้นที่เช่าค้าปลีกอยู่ตลอดตั้งแต่เปิดตั้งแต่ พ.ศ. 2555 เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าที่ประสบความสำเร็จเลยทีเดียว ซึ่งหากเราพิจารณาเมกาบางนาก็จะเห็นได้ว่าทำเลนี้เป็นทำเลที่ดีในทางฮวงจุ้ย ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  1. ทำเลเป็นจุดตัดระหว่างถนนใหญ่ 2 เส้น คือถนนบางนา-ตราด (ขนาด 10-12 ช่องทางจราจร) กับ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก (ขนาด 6-8 ช่องจราจร) ทำให้กระแสพลังงานลมที่เป็นพลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของรถเยอะมากเป็นพิเศษ

  2. เมกาบางนาออกแบบให้มีลานโล่งขนาดใหญ่ที่เป็นทางเดินเอาต์ดอร์ บริเวณโซนร้านอาหาร ซึ่งลานโล่งนี้เป็นแหล่งสะสมกระแสพลังงานที่เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญทางฮวงจุ้ยของห้างนี้

    โดยลานโล่งนี้จะอยู่ทางทิศตะวันออกของห้างซึ่งใกล้บริเวณจุดชำระเงินค่าทางด่วนของถนนกาญจนาภิเษก เมื่อรถทุกคันที่วิ่งบนถนนกาญจนาภิเษกมาถึงบริเวณนี้ก็ต้องหยุดที่จุดชำระเงินค่าทางด่วน ทำให้มีกระแสพลังงานนั้นหยุดและสะสมตัวบริเวณด้านทิศตะวันออกของเมกาบางนา ซึ่งสอดคล้องกับการออกแบบให้มีลานโล่งของห้างเพื่อเป็นจุดรับเก็บกักสะสมพลังงานเหล่านี้พอดี และส่งผลดีทางฮวงจุ้ยกับห้างอย่างมาก

    ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA

    ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA

  3. เมกาบางนา ตั้งอยู่บริเวณถนนโค้งโอบที่รถวิ่งจากถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกแล้วเลี้ยวโค้งเข้าถนนบางนา-ตราด เปรียบได้กับทำเลที่มีสายน้ำโอบ จะสังเกตได้ว่าน้ำพาตะกอนมาสะสมด้านภายในโค้ง ทำให้พื้นดินด้านในโค้งขยายและมีพื้นที่มากขึ้น ดังนั้นพื้นที่ด้านในถนนโค้งโอบจึงเป็นแหล่งสะสมพลังงานเช่นกัน เพราะการที่รถยนต์เคลื่อนที่ผ่านโค้งก็จะมีแรงสู่ศูนย์กลาง (Centripetal Force) ตรงตามหลักการเคลื่อนที่ของวัตถุแนวโค้งหรือทรงกลมในหลักฟิสิกส์

    นอกจากนี้ถนนบริเวณโค้งโอบมักทำความชัน (Slope) ของถนนเอียงเข้าหาด้านในโค้งเพื่อป้องกันรถวิ่งเร็วไม่ให้หลุดโค้ง โดยอากาศนั้นมีสภาพเป็นของไหลทางวิศวกรรมก็จะไหลจากที่สูงสู่ที่ต่ำตามกฎของแรงดึงดูด ดังนั้นอากาศบริเวณนี้ก็จะไหลไปสะสมอยู่ด้านในของโค้ง ทำให้ทำเลด้านในโค้งโอบเป็นทำเลที่สะสมพลังงานได้มาก

    ที่มาภาพ
    : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA

  4. เมกาบางนามีสะพานลอยกับสะพานรถวิ่งเข้าห้าง ช่วยดักกระแสพลังงานจากรถที่วิ่งบนถนนบางนา-ตราด ขาเข้าเมือง โดยเมื่อรถยนต์วิ่งก็จะมีอากาศหรือพลังงานที่เคลื่อนไหวมาเหนือรถยนต์ ซึ่งจะปะทะกับแนวของสะพานลอยและสะพานสำหรับรถวิ่งเข้าห้าง ทำให้พลังงานหยุดหรือชะลอตัวสะสมบริเวณพื้นที่หน้าห้างนั่นเอง

    ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA

Related Posts

ตามช่วงเวลา