ที่มาภาพ : shutterstock

ห้องทำงานถือว่าเป็นจุดสำคัญอีกจุดที่ต้องพิจารณาทางฮวงจุ้ย ซึ่งห้องนี้อาจเป็นห้องที่เราใช้คิดและตัดสินใจเรื่องงานต่างๆ อยู่ประจำ โดยหากมีฮวงจุ้ยที่ดีก็จะส่งผลให้การตัดสินใจเรื่องงานถูกต้อง หรือสอดคล้องกับจังหวะโอกาสภายนอก ส่งผลให้ชีวิตด้านการงานเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ถ้าหากฮวงจุ้ยห้องทำงานแย่ก็จะส่งผลให้ตัดสินใจผิดพลาด ซึ่งการตัดสินใจเรื่องงานใหญ่ๆ พลาดครั้งเดียวก็ส่งผลรุนแรงต่อธุรกิจได้

ทั้งนี้ ฮวงจุ้ยห้องทำงาน หมายรวมถึงตำแหน่งโต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน ประตู หน้าต่าง เครื่องปรับอากาศ รวมถึงสิ่งของต่างๆ ภายในห้องด้วย

ฮวงจุ้ยที่ร้ายมักส่งผลโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น เราคิดว่าการตัดสินใจของเรานั้นถูกต้อง แต่จริงแล้วไม่ตรงกับจังหวะและโอกาสกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันประจำ หรือเราอาจคิดว่าโครงการ งานของเรานั้นดีมาก แต่เมื่อเสนอเจ้านายหรือผู้ร่วมงาน คนอื่นกลับมองว่าโครงการของเรานั้นไม่มีประโยชน์เพียงพอที่จะลงทุน ทำให้เสียเวลาในการใช้ความคิด หรือบางทีถึงขั้นลงมือทำโครงการนั้นๆ แต่ทำให้ขาดทุน

ความสำคัญของฮวงจุ้ยห้องทำงาน ถูกพิจารณาจากความถี่ในการใช้ห้องทำงานว่ามากน้อยเพียงใด ถ้าใช้ห้องทำงานนั้นบ่อย ผู้ใช้ห้องนั้นก็ได้รับผลจากฮวงจุ้ยนั้นมาก แต่ถ้าใช้น้อย ก็ส่งผลน้อยตามสัดส่วนการใช้งาน

ซึ่งบางบ้านอาจจะมีห้องทำงานอยู่ แต่ไม่มีสมาชิกในบ้านใช้งานเลยจึงทำให้ฮวงจุ้ยห้องนั้นส่งผลกับสมาชิกในบ้านเพียงเล็กน้อย ซึ่งความหมายคือ หากฮวงจุ้ยห้องทำงานนั้นดี ก็ส่งผลดีน้อยตามสัดส่วนการใช้งานที่น้อยลงไปด้วย แต่ถ้าหากฮวงจุ้ยห้องทำงานนั้นร้ายก็ส่งผลร้ายตามสัดส่วนการใช้งานเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ถ้าให้ดีที่สุดก็ควรการจัดฮวงจุ้ยห้องทำงานให้ดีและใช้งานห้องทำงานนี้อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ฮวงจุ้ยที่ดีส่งผลต่อการคิดและการตัดสินใจในเรื่องงานให้สอดคล้องกับจังหวะหรือโอกาสต่างๆ เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรือง โดยฮวงจุ้ยห้องทำงานที่ดีในเชิงชัยภูมิคร่าวๆ มีดังนี้

  1. ตำแหน่งโต๊ะทำงานควรมองเห็นประตูเข้าออกห้องอย่างชัดเจน
    เพื่อให้เห็นคนที่เดินเข้าออกจากห้องอย่างชัดเจน โดยไม่ควรอยู่ใกล้ประตูทางเข้าจนเกินไป เพื่อให้เราสามารถมองเห็นท่าทางของคนที่เข้ามาแล้วทำให้เราตั้งตัวหรือปรับอารมณ์ ความคิด ที่จะพูดคุยกับคนที่เข้ามาติดต่อได้ทัน

    นอกจากนี้ตำแหน่งโต๊ะทำงานไม่ควรหันหน้าเข้าหากำแพง เนื่องจากสภาพกำแพงนั้นทึบทำให้ความคิดไม่โปร่งใส ทางที่ดีคือควรให้ตำแหน่งนั่งนั้นมองเห็นวิวภายนอกที่กว้างไกลก็จะช่วยเสริมเรื่องความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานให้ดีขึ้น


    ภาพโต๊ะทำงานที่ด้านหลังมีสภาพทึบ และด้านหน้ามองเห็นประตูเข้าออกห้องอย่างชัดเจน / ที่มาภาพ : shutterstock

  2. บริเวณประตูทางเข้าห้องไม่ควรมีสิ่งกีดขวาง
    เนื่องจากประตูทางเข้าเป็นทิศที่มีพลังงานเข้าห้องได้สูงสุด ซึ่งหากสามารถวางตำแหน่งประตูในทิศทางที่ดีได้ พลังงานที่ดีก็สามารถเข้ามาสะสมในห้องได้มาก ก็จะช่วยกระตุ้นให้สามารถคิดเรื่องงานได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรมีสิ่งของมาบดบังบริเวณประตูเพื่อกั้นพลังงานที่เข้ามาในห้อง ถ้าให้ดี บริเวณประตูควรมีพื้นที่โล่งพอสมควรเพื่อให้พลังงานที่เข้ามาสะสมในห้องได้ง่ายขึ้น หรือถ่ายเทไปยังบริเวณอื่นในห้องได้ดีขึ้น

  3. ด้านหลังโต๊ะทำงานควรเป็นกำแพงทึบ มากกว่าเป็นพื้นที่โปร่งโล่ง
    เนื่องจากมุมมองของสายตาคนไม่สามารถมองเห็นด้านหลังได้ สภาพทึบด้านหลังจึงทำให้รู้สึกปลอดภัย ในทางตรงกันข้าม หากด้านหลังโต๊ะทำงานตรงกับประตู เวลาที่มีคนเดินเข้าออกก็จะทำให้ตกใจได้ เมื่อเกิดขึ้นบ่อยครั้งก็จะทำให้เกิดความระแวงและสามารถสะสมจนติดเป็นนิสัยขี้ระแวงได้

  4. แสงสว่างในห้องต้องเพียงพอ
    เนื่องจากแสงสว่างจะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกกระฉับกระเฉงและมีพลังในการทำงาน ในทางกลับกัน หากห้องทำงานมืดก็จะทำให้เกิดสภาพซึมเซาหรือเสื่อมในการทำงาน

  5. โต๊ะทำงานที่ดี ขาโต๊ะควรมีลักษณะโปร่ง ไม่ทึบ แน่น ตัน
    เนื่องจากหลักการของฮวงจุ้ยนั้นพิจารณากระแสพลังงานเป็นหลัก ซึ่งกระแสพลังงานนี้ก็มาจากช่องประตู หน้าต่าง เครื่องปรับอากาศที่มีลมหรืออากาศเคลื่อนไหว หรือแม้แต่ตัวคนที่เคลื่อนไหวเดินเข้ามาที่โต๊ะทำงานก็สามารถลากกระแสพลังงานอ่อนๆ หรือลมอ่อนๆ เข้ามาได้
    ซึ่งหากโต๊ะทำงานที่มีขาโต๊ะทึบ แน่น ตัน ก็จะทำให้กั้นพลังงานเหล่านี้มาสู่ตำแหน่งเก้าอี้ที่ใช้นั่งทำงาน ทำให้ได้รับกระแสพลังงานน้อยลงไป ดังนั้นโต๊ะนั่งทำงานควรมีสภาพโปร่งเพียงพอให้กระแสพลังงานเข้ามาถึงคนนั่งได้ ส่วนโต๊ะที่สภาพทึบนั้นอาจพิจารณาใช้งานเป็นบางกรณี ก็สามารถเสริมเป็นฮวงจุ้ยที่ดีได้

    ภาพโต๊ะทำงานที่มีสภาพโปร่ง รวมถึงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานที่มีขาโปร่งเช่นเดียวกัน ทำให้กระแสไหลเวียนมาถึงผู้นั่งโต๊ะได้ โดยห้องมีแสงสว่างเพียงพอ
  6. ตู้เก็บเอกสารควรเป็นตู้ที่มีหน้าบาน
    เนื่องจากตู้เอกสารที่ไม่มีหน้าบานจะทำให้กระแสอากาศที่ดีไปกักเก็บตามซอกแฟ้มเอกสาร โดยเฉพาะตู้ที่มีเอกสารที่เรียงไม่เป็นระเบียบ ถือว่าการไหลเวียนของสภาพอากาศในห้องนั้นไม่ดี การที่ตู้มีหน้าบาน ไม่ว่าจะเป็นกระจก เหล็ก ไม้ จะช่วยกันสภาพอากาศในห้องไม่ให้เข้าไปอยู่ในตู้

    เปรียบเสมือนตู้เป็นผนังเรียบจึงทำให้สภาพอากาศนั้นไหลเวียนได้ดี ซึ่งกรณีที่มีตู้เอกสารที่ไม่มีหน้าบาน สามารถแก้ไขได้โดยการเรียงของในตู้เอกสารให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก็จะช่วยให้กระแสอากาศนั้นไหลเวียนได้ดีขึ้น

  7. ควรวางของในห้องทำงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
    จะช่วยให้กระแสอากาศไหลเวียนภายในห้องได้ดี ซึ่งหลายคนอาจจะจัดห้องเรียบร้อยแต่บนโต๊ะทำงานมีเอกสารวางเต็มไปหมดอย่างไม่เป็นระเบียบ ก็ควรทำการจัดเรียงให้เป็นระเบียบด้วยเช่นเดียวกัน

  8. ไม่ควรมีคานหรือฝ้าหลุม
    เนื่องจากว่าฮวงจุ้ยที่ดี ต้องการอากาศไหลเวียนได้ดีซึ่งขัดกับการที่ห้องมีฝ้าหลุมหรือคาน เนื่องจากเมื่อกระแสอากาศไหลเวียนที่ปะทะกับคานจะโดนคานบังคับให้กระแสกดต่ำลงมาใต้คาน ทำให้บริเวณใต้คานนั้นมีกระแสกดต่ำลงมากเป็นพิเศษ เป็นสาเหตุให้คนที่นั่งใต้คานนั้นหงุดหงิดได้ง่าย ในกรณีที่ห้องนั้นมีคานควรเลื่อนตำแหน่งเก้าอี้และโต๊ะทำงานให้พ้นบริเวณสันของคาน

  9. ตำแหน่งเครื่องปรับอากาศ ไม่ควรอยู่เหนือบริเวณที่นั่ง
    โดยเครื่องปรับอากาศที่ติดผนังนั้นเปรียบเสมือนสภาพคานอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน จึงไม่ควรไปนั่งทำงานใต้เครื่องปรับอากาศ

จากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เป็นฮวงจุ้ยทางหลักฮวงจุ้ยชัยภูมิที่ดีสำหรับห้องทำงานในบ้านหรือจะเป็นห้องทำสำหรับผู้บริหารในสำนักงานก็ได้ นอกจากนี้หลักการฮวงจุ้ยข้างต้นยังอาจประยุกต์ให้เหมาะสมกับห้องเรียนของเด็กได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลักการข้างต้นเป็นเพียงแค่หลักฮวงจุ้ยชัยภูมิที่ดีเท่านั้น ซึ่งทางที่ดีควรปรึกษาซินแสที่มีประสบการณ์เพื่อใช้หลักการฮวงจุ้ยในวิชาอื่นๆ เสริมให้ดียิ่งขึ้น เช่น หาตำแหน่งทิศนั่งที่มีโชคลาภหรือบารมีที่ดี หรืออาจจะเป็นตำแหน่งทิศนั่งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาหรือความคิดสร้างสรรค์ที่ดีสำหรับเด็กก็เป็นได้ ซึ่งตำแหน่งทิศนั่งเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้จัดฮวงจุ้ยควรได้รับคำปรึกษาจากซินแสที่มีประสบการณ์

Related Posts

ตามช่วงเวลา