ที่มาภาพ : shutterstock
เอเชียเทีค เดอะรีเวอร์ฟร้อนท์ เป็นโครงการศูนย์การค้าแนวราบอยู่บนถนนเจริญกรุง ซึ่งถนนสายนี้เป็นถนนวิ่งขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตำแหน่งที่ดินของโครงการนี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นั้นเคยเป็นที่ตั้งของท่าเรือและบริษัทเดินเรือของเดนมาร์กที่ชื่อ อีสต์เอเชียติก ซึ่งสร้างเป็นโกดัง โรงเลื่อย ต่อมาในช่วงสงครามหาเอเชียบูรพา ท่าเรือแห่งนี้ถูกกองทัพญี่ปุ่นเข้ามายึดครองเพื่อใช้เป็นฐานกำลังและคลัง จนมาถึง พ.ศ. 2555 ที่ดินแห่งนี้ถูกปรับปรุงเป็นศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะรีเวอร์ฟร้อนท์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและค้าปลีกที่สวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สำหรับในด้านฮวงจุ้ยนั้น พื้นที่โครงการเอเชียทีคจะแตกต่างจากศูนย์การค้าชั้นนำทั่วๆ ไป เนื่องจากโครงการเอเชียทีคเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำแต่ติดถนนที่มีขนาดความกว้างน้อย หรือติดถนนแค่ 4 เลน ขณะที่โครงการศูนย์การค้าอื่นๆ มักจะมีทำเลติดถนนที่มีความกว้างหลายเลนแต่ไม่ได้ติดแม่น้ำ โดยในทางฮวงจุ้ยนั้นเราจะพิจารณาถึงกระแสพลังงานหรือพลังชี่ของสถานที่ต่างๆ ซึ่งกระแสพลังงานนี้เกิดจากการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหวของรถยนต์ที่วิ่งบนถนนนั้นก็จะทำให้อากาศที่อยู่บนถนนนั้นเคลื่อนที่ไปพร้อมกับรถยนต์นั้นเอง ดังนั้นโครงการหรืออาคารต่างๆ ติดถนนที่มีขนาดความกว้างมากก็จะมีรถวิ่งผ่านจำนวนมาก ก่อให้เกิดแนวกระแสพลังงานจำนวนมากมาส่งเสริมโครงการหรืออาคารนั้นๆ ขณะที่โครงการที่ติดถนนที่แคบกว่าก็จะได้รับกระแสพลังงานจากรถยนต์ที่เคลื่อนไหวน้อยกว่านั้นเอง หรือจะพูดได้ว่าโครงการเอเชียทีคนั้นได้รับกระแสพลังงานจากแนวถนนน้อยนั้นเอง
อย่างไรก็ตาม โครงการเอเชียทีคนั้นกลับได้รับกระแสพลังงานที่มาจากแนวการเคลื่อนไหวของแม่น้ำที่ทำให้อากาศเหนือบริเวณน้ำนั้นเคลื่อนที่เข้ามาสะสมอยู่ในบริเวณที่ตั้งของโครงการ จึงส่งผลให้โครงการเอเชียทีคเป็นทำเลที่ดีในทางฮวงจุ้ย นอกจากนี้การที่โครงการได้รับพลังชี่จากแม่น้ำก็จะช่วยส่งเสริมให้ทำการค้าขายในเวลาเย็นและกลางคืนได้ดีขึ้นเป็นพิเศษกว่าสถานที่อื่นอีกด้วย เนื่องจากพลังธาตุน้ำหมายถึงเป็นพลังงานธาตุที่เย็นที่สุดในบรรดาธาตุต่าง (ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ) ซึ่งหากเทียบเวลาที่มีอากาศเย็นที่สุดในช่วงทั้งวันก็คือเวลากลางคืน ซึ่งชาวจีนก็เรียกเวลากลางคืนว่าเป็นช่วงเวลาของพลังธาตุน้ำ ดังนั้นพลังงานชี่จากน้ำจึงส่งเสริมกระตุ้นธุรกิจที่ทำการค้าช่วงเวลาธาตุน้ำหรือเวลากลางเป็นพิเศษนั่นเอง
ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA
นอกเหนือจากทำเลที่ตั้งที่ส่งเสริมธุรกิจร้านค้าต่างๆ ของโครงการเอเชียทีคแล้วการออกแบบพื้นที่ของโครงการนี้ก็จุดน่าสนใจอีกดังนี้
ที่มาภาพ : shutterstock
- มีลานโล่งรับกระแสพลังงานจากแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้กระแสพลังงานจากแม่น้ำไหลเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ของโครงการได้ทั่วถึงและง่ายๆ นั้นเอง โดยพื้นที่ลานโล่งนี้ก็คือพื้นที่ที่ใช้จัดการแสดงต่างๆ ของโครงการนั้นเอง ซึ่งหากสังเกตพื้นที่ของลานโล่งนี้กับที่ดินของวัดราชสิงห์ขรที่ติดกันแล้วจะเห็นว่าที่ดินของวัดนั้นถอยห่างจากแนวแม่น้ำมากกว่าที่ดินของโครงการเอเชียทีค จึงทำให้กระแสพลังงานไหลเข้าสู่ที่ดินของเอเชียทีคได้ดียิ่งขึ้นนั้นเอง
ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA
- โครงการเว้นพื้นที่ริมน้ำทั้งหมดเป็นจุดชมวิวซึ่งลักษณะเป็นลานโล่งที่เป็นชานพักรับกระแสพลังงานจากแม่น้ำเป็นอย่างดี และเมื่อกระแสพลังงานนั้นถูกสะสมที่บริเวณชานโล่งนี้แล้วก็จะทำให้กระแสพลังงานนั้นไหลเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ ของโครงการได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งถ้าโครงการนี้มีการสร้างอาคารติดแม่น้ำนั้นก็ทำให้พลังงานจากแม่น้ำนั้นถูกอาคารกั้นไม่ให้ไหลเข้าสู่พื้นที่ส่วนต่างๆ ของโครงการได้ง่ายนั้นเอง
- โครงการมีท่าเรือที่จากพื้นที่โครงการเข้าไปบริเวณแม่น้ำซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยดักกักกระแสพลังงานจากแม่น้ำให้ชะลอตัวหรือสะสมอยู่บริเวณโครงการ
ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA
- แนวการเรียงตัวอาคารนั้นมีระดับห่างจากแนวแม่น้ำไม่เท่ากัน โดยการเรียงตัวลักษณะตามรูปนี้จะช่วยให้กระแสพลังงานสะสมในโครงการได้ดีและไหลเวียนทั่วถึงพื้นที่ต่างๆ ของโครงการ
ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA
- ทางเข้าโครงการด้านติดถนนเจริญกรุง แม้จะไม่ใช่ด้านที่รับกระแสพลังงานหลักเหมือนพื้นที่ด้านริมน้ำโครงการ แต่พื้นที่ด้านติดถนนก็เป็นทางเข้าที่มีลานโล่งที่ช่วยรับกระแสพลังงานที่มาจากการเคลื่อนไหวของรถยนต์และน้ำพุช่วยกระตุ้นพลังงานอีกด้วย
ที่มาภาพ : shutterstock