Tag

ฮวงจุ้ย

FIN: ฮวงจุ้ยโครงการ เอเชียทีค เดอะรีเวอร์ฟร้อนท์

ที่มาภาพ : shutterstock เอเชียเทีค เดอะรีเวอร์ฟร้อนท์ เป็นโครงการศูนย์การค้าแนวราบอยู่บนถนนเจริญกรุง ซึ่งถนนสายนี้เป็นถนนวิ่งขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตำแหน่งที่ดินของโครงการนี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นั้นเคยเป็นที่ตั้งของท่าเรือและบริษัทเดินเรือของเดนมาร์กที่ชื่อ อีสต์เอเชียติก ซึ่งสร้างเป็นโกดัง โรงเลื่อย ต่อมาในช่วงสงครามหาเอเชียบูรพา ท่าเรือแห่งนี้ถูกกองทัพญี่ปุ่นเข้ามายึดครองเพื่อใช้เป็นฐานกำลังและคลัง จนมาถึง พ.ศ. 2555 ที่ดินแห่งนี้ถูกปรับปรุงเป็นศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะรีเวอร์ฟร้อนท์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและค้าปลีกที่สวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับในด้านฮวงจุ้ยนั้น พื้นที่โครงการเอเชียทีคจะแตกต่างจากศูนย์การค้าชั้นนำทั่วๆ ไป เนื่องจากโครงการเอเชียทีคเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำแต่ติดถนนที่มีขนาดความกว้างน้อย หรือติดถนนแค่ 4 เลน ขณะที่โครงการศูนย์การค้าอื่นๆ มักจะมีทำเลติดถนนที่มีความกว้างหลายเลนแต่ไม่ได้ติดแม่น้ำ โดยในทางฮวงจุ้ยนั้นเราจะพิจารณาถึงกระแสพลังงานหรือพลังชี่ของสถานที่ต่างๆ ซึ่งกระแสพลังงานนี้เกิดจากการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหวของรถยนต์ที่วิ่งบนถนนนั้นก็จะทำให้อากาศที่อยู่บนถนนนั้นเคลื่อนที่ไปพร้อมกับรถยนต์นั้นเอง ดังนั้นโครงการหรืออาคารต่างๆ ติดถนนที่มีขนาดความกว้างมากก็จะมีรถวิ่งผ่านจำนวนมาก ก่อให้เกิดแนวกระแสพลังงานจำนวนมากมาส่งเสริมโครงการหรืออาคารนั้นๆ ขณะที่โครงการที่ติดถนนที่แคบกว่าก็จะได้รับกระแสพลังงานจากรถยนต์ที่เคลื่อนไหวน้อยกว่านั้นเอง หรือจะพูดได้ว่าโครงการเอเชียทีคนั้นได้รับกระแสพลังงานจากแนวถนนน้อยนั้นเอง อย่างไรก็ตาม โครงการเอเชียทีคนั้นกลับได้รับกระแสพลังงานที่มาจากแนวการเคลื่อนไหวของแม่น้ำที่ทำให้อากาศเหนือบริเวณน้ำนั้นเคลื่อนที่เข้ามาสะสมอยู่ในบริเวณที่ตั้งของโครงการ จึงส่งผลให้โครงการเอเชียทีคเป็นทำเลที่ดีในทางฮวงจุ้ย นอกจากนี้การที่โครงการได้รับพลังชี่จากแม่น้ำก็จะช่วยส่งเสริมให้ทำการค้าขายในเวลาเย็นและกลางคืนได้ดีขึ้นเป็นพิเศษกว่าสถานที่อื่นอีกด้วย เนื่องจากพลังธาตุน้ำหมายถึงเป็นพลังงานธาตุที่เย็นที่สุดในบรรดาธาตุต่าง (ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ) ซึ่งหากเทียบเวลาที่มีอากาศเย็นที่สุดในช่วงทั้งวันก็คือเวลากลางคืน ซึ่งชาวจีนก็เรียกเวลากลางคืนว่าเป็นช่วงเวลาของพลังธาตุน้ำ ดังนั้นพลังงานชี่จากน้ำจึงส่งเสริมกระตุ้นธุรกิจที่ทำการค้าช่วงเวลาธาตุน้ำหรือเวลากลางเป็นพิเศษนั่นเอง ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม...
Read More

Fin: พลังฮวงจุ้ยห้าแยกลาดพร้าว ตอนที่ 2

ที่มาภาพ : shutterstock   จากที่กล่าวไว้ในบทความ “พลังฮวงจุ้ยห้าแยกลาดพร้าว ตอนที่ 1” ว่าทำเล 5 แยกลาดพร้าวนั้นดี เนื่องมาจาก ทำเล 5 แยกเป็นจุดตัดของถนน ทำให้มีกระแสพลังงานของอากาศที่เคลื่อนไหวจากรถยนต์จำนวนมาก ทำเลนี้ติดกับพื้นที่สวนขนาดใหญ่ในเมืองที่เป็นที่ราบต่ำกว่าพื้นที่อาคารสูงโดยรอบ จึงทำให้กระแสพลังงานหรืออากาศนั้นไหลไปสะสมตัวในสวน เพราะทางธรรมชาติอากาศกับน้ำเป็นของไหลที่มีมวลในเชิงวิศวกรรมโดยจะไหลลงสู่ที่ต่ำกว่าเสมอ ซึ่งเมื่อมีแรงลมธรรมชาติหรือแรงลมจากรถยนต์วิ่งผ่านสวนก็จะลากพลังงานอากาศในสวนนี้ไปสู่บริเวณพื้นที่ข้างเคียงให้ได้รับกระแสพลังนี้ด้วย ที่มาภาพ : shutterstock ทำเล 5 แยกนี้ตัดกับถนนวิภาวดีที่เป็นถนนขนาดใหญ่และมีทางด่วนยกระดับ ซึ่งมีรถวิ่งผ่านมากจึงทำให้เกิดพลังงานเคลื่อนไหวมากเป็นพิเศษ ที่มาภาพ :shutterstock ทำเลนี้ใกล้สถานีรถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟใต้ดิน (MRT) ซึ่งเป็นจุดที่มีพลังงานมากจากการเคลื่อนไหวของผู้คนจำนวนมาก ทั้งนี้ หากเราพิจารณาในรายละเอียดพื้นที่ย่อยของทำเลนี้ก็มีสิ่งที่แตกต่างกัน ส่งผลให้อาคารต่างๆ ในโซนนี้มีฮวงจุ้ยดีที่แตกต่างกันไปอีกด้วย ซึ่งผมขอแบ่งทำเลออกเป็น 5 โซน ด้วยกัน ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA   โซน A...
Read More

Fin: ฮวงจุ้ย Terminal 21

ที่มาภาพ : shutterstock   ห้างสรรพสินค้า เทอมินอล 21 อโศก ตั้งอยู่ในทำเลสี่แยกอโศกซึ่งเป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยดีมากแห่งหนึ่ง นอกจากฮวงจุ้ยห้างจะอยู่ในทำเลดีของสี่แยกอโศกที่ได้กล่าวไว้ในบทความ พลังฮวงจุ้ยอโศก แล้ว ห้างนี้ก็ยังมีการออกแบบที่ดีในด้านฮวงจุ้ยอีกด้วย โดยสิ่งที่น่าสนใจด้านฮวงจุ้ยห้องห้างนี้มีดังนี้ ประตูทางเข้าชั้น 2 มีการออกแบบให้มีถึง 2 ประตูทางเข้า พร้อมกับชานพักที่เป็นลานโล่งเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่สุด เพราะกระแสพลังงานที่มีอิทธิพลหลักของทำเลนี้คือตำแหน่งสถานีรถไฟฟ้า เนื่องจาก BTS สถานีอโศกนี้มีจำนวนคนใช้บริการเป็นจำนวนมาก เรียกว่าเป็นรองเพียง BTS สถานีสยามเท่านั้นหากนับรวมจาก BTS ทุกสถานี ซึ่งการเคลื่อนไหวของผู้คนจำนวนมากบริเวณสถานีรถไฟฟ้าทำให้เกิดกระแสพลังงานมากนั่นเอง แม้หลายๆ ห้างจะติดสถานีรถไฟฟ้าแต่ก็ไม่ได้มีประตูทางเข้าจากสถานีรถไฟฟ้าถึง 2 ประตูเพื่อรับกระแสพลังงานจากสถานีรถไฟฟ้าได้เหมือนห้างแห่งนี้ ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA ที่มาภาพ : shutterstock ประตูทางเข้าชั้น 1 ด้านหน้าซอยสุขุมวิท 19 สามารถรับกระแสพลังงานจากรถที่วิ่งเข้าออกจากสุขุมวิทซอย...
Read More

FIN: ฮวงจุ้ยเจริญกรุง

ที่มาภาพ : shutterstock ถนนเจริญกรุงถือว่าเป็นถนนที่มีความเจริญมายาวนานมาก โดยถนนแห่งนี้สร้างเมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2404 จนสร้างเสร็จ พ.ศ. 2407 เรียกได้ว่ามีอายุยาวนานถึง 100 กว่าปีเลยทีเดียว เมื่อสร้างถนนนี้เสร็จใหม่ชาวยุโรปเรียกถนนนี้ว่า นิวโรด (New Road) และชาวจีนเรียก ซินพะโล้ว แปลว่า ถนนตัดใหม่ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามถนนว่า “ถนนเจริญกรุง” นั้นเอง และว่าแม้เวลาผ่านมายาวนานมากแต่ถนนแห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นถนนที่มีความเจริญตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงสมัยปัจจุบัน โดยหากพิจารณาทางด้านฮวงจุ้ยที่ส่งเสริมให้ถนนแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองยาวนานมีได้ดังนี้ ถนนเจริญกรุงเป็นถนนที่ขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดเส้นถนน เริ่มตั้งแต่ถนนมหาไชย บริเวณพระบรมมหาราชวังและวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และไปสิ้นสุดถนนที่บริเวณถนนตก แถวโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ทั้งนี้การที่ถนนทั้งสายกับแม่น้ำขนานกันนั้นทำให้ถนนได้รับกระแสพลังงานที่ดีที่มาจากแม่น้ำ เนื่องจากในหลักการของฮวงจุ้ยนั้นแม่น้ำถือว่าเป็นสิ่งที่ลากพากระแสพลังงานจากต้นน้ำไปสู่ทำเลต่างๆ  ได้นั่นเอง และขณะที่น้ำในแม่น้ำเคลื่อนที่นั้น อากาศที่อยู่บริเวณเหนือน้ำก็การเคลื่อนที่ตามแนวกระแสน้ำไปด้วย ซึ่งการเคลื่อนไหวของอากาศเหนือแม่น้ำนี่แหละคือพลังงานที่ส่งมาถึงพื้นดินที่เป็นทำเลใกล้น้ำได้ ซึ่งถนนเจริญกรุงและถนนใกล้ๆ แม่น้ำบริเวณนี้ เช่น ถนนเยาวราชก็ได้รับอิทธิพลส่วนนี้ไปร่วมกันหมด โดยแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีลักษณะโค้งไปมาในช่วงที่ขนานกับถนนเจริญกรุง จึงทำให้พลังงานนั้นเคลื่อนที่ไหลเข้าสู่พื้นดินข้างน้ำได้ดีเป็นพิเศษกว่าการที่ลักษณะแม่น้ำที่ไหลเป็นเส้นทางตรง นอกจากนี้จุดต้นถนนเจริญกรุงบริเวณถนนมหาไชยและปลายถนนเจริญกรุงที่เรียกว่าถนนตกจะเป็นพื้นที่อยู่ในจุดโค้งน้ำด้านในของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทำเลด้านในโค้งน้ำนั้นถือว่าเป็นทำเลที่มีพลังงานสะสมตัวได้ดี โดยสามารถสังเกตได้จากการสะสมตัวของตะกอนทำให้ดินงอกด้านในโค้งแม่น้ำ ที่มาภาพ : shutterstock ที่มา : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map)...
Read More

FIN: อาคารที่โดดเด่นในย่านสีลม

ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาคารที่หันหน้าไปทางถนนสีลมแล้วเป็นทิศเหนือ เนื่องจากองศาทิศทางด้านนี้คำนวณทางฮวงจุ้ยแล้วเป็นทิศที่ดีมากทิศหนึ่งไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ตาม เช่น ตึกเซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ อาคารสำนักงาน CP อาคารธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เป็นต้น ส่วนอาคารอีกฝั่งที่หันหน้าด้านทิศใต้เข้าสู่ถนนสีลมนั้น คำนวณแล้วองศาทิศทางจะดีบ้างบางช่วงยุคสมัยเท่านั้น ซึ่งช่วงยุค พ.ศ. 2547-2566 นั้นยังไม่ถือว่าดีเท่าไร อาคารที่น่าสนใจด้านนี้ก็คือ อาคารธนิยะ เป็นต้น อาคารเซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ มีจุดน่าสนใจ ดังนี้ อาคารตั้งอยู่ช่วงต้นสายถนนสีลม ทำให้รับพลังงานได้ดีกว่าอาคารในช่วงปลายถนนสีลม มีสกายวอล์กเชื่อมกับอาคารทำให้กระแสพลังงานจากคนเดินบนสกายวอล์กเข้าถึงอาคารได้ง่าย ภาพสกายวอล์กเชื่อมเข้าสู่อาคารเซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ ที่มาภาพ : shutterstock อาคารใกล้สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าเองก็เป็นจุดจ่ายพลังงานเพราะมีคนเดินจำนวนมากเข้าออกจากรถไฟฟ้า ตึกมีชั้นใต้ดินที่มีช่องโล่งให้มองเห็นจากชั้นระดับถนนได้ และมีทางเดินลงชั้นใต้ดินจากด้านหน้าอาคาร จึงทำให้พลังงานจากคนเดินและรถวิ่งผ่านไหลลงไปเก็บกักที่บริเวณชั้นใต้ดินอาคารได้มาก ภาพด้านหน้าอาคารเซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ ที่เป็นช่องโล่งให้พลังงานไหลลองไปสู่ชั้นใต้ดิน ทำให้พลังงานสะสมที่ห้างนี้ได้ดี ที่มาภาพ : shutterstock อาคารสำนักงาน CP มีจุดน่าสนใจ ดังนี้ หน้าอาคารตรงข้ามกับซอยพัฒน์พงศ์ ซึ่งเท่ากับว่าทำเลของตึกสำนักงานนี้ตรงกับทางสามแพร่งพอดี ทำให้สามารถรับพลังงานได้มาก เนื่องจากกระแสลมที่พัดมาจะถูกบีบอัดมาระหว่างช่องตึกของซอยพัฒน์พงศ์เข้ามาปะทะอาคารสำนักงานนี้เพียงแต่องศาทิศทางของอาคารนั้นอยู่ในองศาทิศทางที่ดี หรือทิศหน้าอาคารเป็นทิศโชคลาภ จึงทำให้พลังงานที่เข้ามายิ่งกระตุ้นให้เกิดโชคลาภที่ดีนั่นเอง  จริงๆ แล้วทางสามแพร่งไม่ได้ร้ายเสมอไป...
Read More

FIN: พลังฮวงจุ้ยพร้อมพงษ์  ทองหล่อ เอกมัย

ที่มาภาพ : shutterstock ทำเลพร้อมพงษ์ ทองหล่อ และเอกมัย นั้นเป็นแหล่งที่มีเป็นจุดรวมของแหล่งที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติ และ สถานที่ค้าปลีกตั้งแต่ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านค้า  ร้านแฟชั่นจากหลากหลายสัญญาชาติ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนด้วย โดยจุดที่ทำให้ทำเลนี้มีความเจริญเป็นทางด้านฮวงจุ้ยนั้นมีดังนี้ การไหลเวียนของกระแสพลังงานของทางเชื่อมถนนพระรามสี่ ถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ทำเลพร้อมพงษ์ (บริเวณสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์) ที่มาภาพ : shutterstock ซอยสุขุมวิท 24 เป็นถนนเส้นตรง ยาว เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนพระราม 4 ส่วนซอยสุขุมวิท 26 ก็จุดเชื่อมถึงถนนพระราม 4 เช่นกัน เพียงแต่ในซอยมีทางเลี้ยวบ้างเล็กน้อย ซอยสุขุมวิท 39 หรือซอยพร้อมพงษ์ ก็เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเพชรบุรี ซึ่งลักษณะซอยก็เกือบจะเป็นถนนเส้นตรง ทองหล่อ (บริเวณสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ) ที่มาภาพ : shutterstock สุขุมวิท 36 และสุขุมวิท 40 เป็นถนนเส้นตรง เชื่อมถนนสุขุมวิทกับถนนพระราม 4 ซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ...
Read More

Fin: พลังฮวงจุ้ยห้าแยกลาดพร้าว ตอนที่ 1

ที่มาภาพ : shutterstock ห้าแยกลาดพร้าว ถือเป็นอีกทำเลหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่มีความเจริญสูง ซึ่งเราสามารถดูความเจริญของทำเลแห่งนี้ได้จากสิ่งปลูกสร้างในย่านนี้ที่ประกอบด้วยสำนักงานและแหล่งค้าปลีกมากมาย ตัวอย่างอาคารสำนักงาน เช่น ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ อาคารเอสโอเอซิส อาคารซันทาวเวอร์ส อาคารเล้าเป้งง้วน 1 อาคารบางกอกแอร์เวย์ สำนักงานใหญ่ อาคาร เอสเจ อินฟินิท วันบิสซิเนส คอมเพล็กซ์  อาคารหมอชิตคอมเพล็กซ์ อาคารหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ อาคารการบินไทย สำนักงานใหญ่ อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 (SC ASSET) ฯลฯ ส่วนแหล่งการค้า เช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ เจ เจ มอลล์ และตลาดนัดสวนจตุจัตร เป็นต้น โดยสาเหตุในด้านฮวงจุ้ยที่ทำให้ทำเลแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองคือ ทำเล 5 แยก เป็นจุดรวมและจุดตัดกันของพลังงานที่มากกว่าทำเลปกติเป็นพิเศษ เนื่องจากรถยนต์นั้นวิ่งมาก็จะนำพาลมหรือพลังงานอากาศมาด้วย และเมื่อรถยนต์ถึงบริเวณทางแยกก็จะชะลอความเร็วหรือหยุดจึงทำให้พลังงานที่รถนำพามานั้นหยุดสะสมบริเวณทางแยกนั้นโดยถ้ารถวิ่งบนถนนพหลโยธินหรือถนนลาดพร้าวไปเข้าถนนวิภาวดีก็ต้องหยุดติดไฟแดงที่ห้าแยกลาดพร้าว ขณะที่รถวิ่งบนถนนวิภาวดีเมื่อถึงห้าแยกลาดพร้าวก็จะต้องวิ่งข้ามสะพานเพื่อข้ามห้าแยกลาดพร้าว แม้ว่ารถนั้นจะไม่ได้หยุดเมื่อถึงห้าแยกแต่การที่รถวิ่งขึ้นสะพานนั้นรถก็จะถูกความชันสะพานนั้นชะลอความเร็วทำให้พลังงานบางส่วนนั้นมาหยุดอยู่ที่จุดห้าแยกแห่งนี้ ทั้งนี้ทำเลนี้มี  5   แยกก็ย่อมพลังงานมากกว่า 4...
Read More

FIN: พลังฮวงจุ้ยบนทำเลสีลม

ถนนสีลม เป็นถนนสายธุรกิจเส้นสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งมีอาคารสำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้า และร้านค้าย่อย อยู่สองฝั่งถนน ซึ่งถนนแห่งนี้เป็นถนนเส้นที่มีความเจริญและมีชื่อเสียงมาก จึงทำให้มีบริษัทจำนวนมากต้องการมีสำนักงานอยู่ในทำเลแห่งนี้
Read More

Fin: ฮวงจุ้ยเมกาบางนา

ที่มาภาพ : shutterstock เมกาบางนา เป็นแหล่งค้าปลีกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนทำเลถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 8 โดยมีพื้นที่โครงการประมาณ 400,000 ตารางเมตร เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ติดอันดับ Top 5 ของประเทศไทยในปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้ เป็นรองจาก ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต สยามพารากอน เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต และ เซ็นทรัลเวิลด์ ที่มีพื้นที่ประมาณ 500,000 ตารางเมตร ซึ่งเมกาบางนายังมีแผนจะสร้างมิกซ์ยูสภายใต้ชื่อ “เมกะซิตี้” โดยเพิ่มอาคารที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม และพื้นที่สีเขียวหรือสวนสาธารณะบนพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ เรียกได้ว่าจะเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ในย่านถนนบางนา-ตราดเลยก็ว่าได้ เมกาบางนามีการเติบโตจากการเพิ่มของจำนวนคนที่เข้ามาในห้างนี้ และการเพิ่มของราคาพื้นที่เช่าค้าปลีกอยู่ตลอดตั้งแต่เปิดตั้งแต่ พ.ศ. 2555 เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าที่ประสบความสำเร็จเลยทีเดียว ซึ่งหากเราพิจารณาเมกาบางนาก็จะเห็นได้ว่าทำเลนี้เป็นทำเลที่ดีในทางฮวงจุ้ย ซึ่งมีดังต่อไปนี้ ทำเลเป็นจุดตัดระหว่างถนนใหญ่ 2 เส้น คือถนนบางนา-ตราด (ขนาด 10-12 ช่องทางจราจร) กับ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก (ขนาด 6-8 ช่องจราจร) ทำให้กระแสพลังงานลมที่เป็นพลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของรถเยอะมากเป็นพิเศษ...
Read More

Fin: อาคารที่โดดเด่นในย่านสาทร

ที่มาภาพ : shutterstock Empire Tower ได้รับกระแสพลังงานจากรถไฟฟ้าที่วิ่งจากสถานีช่องนนทรีบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แล้วพุ่งตรงและเลี้ยวขวาเข้าถนนสาทร ทำให้พลังงานที่รถไฟฟ้าลากมาพุ่งเข้าปะทะตึก Empire Tower โดยตรง ซึ่งตึกนี้ก็ออกแบบเป็นตึกสูงรูปทรงคล้ายฝ่ามือมากั้นพลังงานเก็บไว้ในถนนสาทร และช่วยไม่ให้พลังไหลเข้าถนนนราธิวาสราชนครินทร์ได้ง่ายอีกด้วย ทำให้ตึกนี้ได้รับกระแสพลังงานเต็มที่ และส่งผลดีมากกับถนนสาทรอีกด้วย ภาพตึก Empire Tower ที่สามารถได้รับกระแสพลังงานโดยตรงจากรถไฟฟ้าที่วิ่งเลี้ยวโค้ง จากถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เข้าสู่ถนนสาทร มีตึกรัจนาการมาช่วยกักกระแสพลังงานไม่ให้พลังงานจากรถไฟฟ้านั้นลากผ่านตึก Empire Tower ไปได้ง่ายๆ เพราะตึกรัจนาการจะทำหน้าที่เหมือนตัวดักกระแสพลังงานจากรถไฟฟ้าให้ตีกลับเข้าหาตึก Empire Tower นั่นเอง ภาพแนวรถไฟฟ้าที่มีตึกรัจนาการเป็นตัวช่วยกักกระแสพลังงานให้สะสมที่ตึก Empire Tower ได้มากขึ้น ที่มาภาพ : ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Base Map) รายละเอียดภาพ 2 เมตร สนับสนุนโดย GISTDA ตึกรัจนาการ ได้รับกระแสพลังงานจากรถไฟฟ้าเหมือนกับตึก Empire Tower เช่นกัน เพียงแต่ตึก Empire Tower จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าสำหรับการรับพลังงานจากรถไฟฟ้า แต่ตึกรัจนาการถือว่าเก็บกักพลังงานจากถนนและแนวรถไฟฟ้าได้ดีเช่นกัน เนื่องจากด้านหลังตึกนั้นมีตึก Empire...
Read More
1 2 3 4 5

ตามช่วงเวลา